7 ความลึกลับเกี่ยวกับเอกภพที่นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้


“ไม่มีความลับสำหรับพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ” 

ที่ผ่านมา เผ่าพันธุ์มนุษย์เคยเดินทางไปไกลที่สุดก็คือ การไปเยือนดวงจันทร์ และหนึ่งเดียวของยานสำรวจของเราที่สามารถเดินทางออกจากรบบสุริยจักรวาลคือ ยาน Voyager 1 และการเรียนรู้ในห้วงจักรวาล เราก็สามารถเรียนรู้ได้จากการมองผ่านกล้องโทรทัศน์เพียงเท่านั้น 

เรื่องลึกลับเกี่ยวกับจักรวาลที่มีชื่อเสียง เช่น ใบหน้าบนดาวอังคาร (จริงๆมันก็แค่เงา) หรือ Black knight satellite "UFO" (จริงๆมันก็แค่เศษดาวเทียม) 

แต่จักรวาแห่งนี้เต็มไปด้วยปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ซึ่งอาจมองได้สองแง่มุมคือเป็นภาพมายา หรือเป็นการเข้าใจผิดก็ได้ 

และจาก 7 เรื่องด้านล่างนี้ จะทำให้เราเข้าใจจักรวาลมากขึ้น หากเราเข้าใจสิ่งที่เราเห็น 


1. หลุมดำ 

หลุมดำเปรียบเสมือนหลุมทรายดูดจักรวาล หลุมดำเกิดจากดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ยุบตัวลงในพื้นที่เล็กๆที่มีสนามแรงโน้มถ่วงแบบเข้ม ซึ่งแม้แต่แสงก็ไม่อาจหนีออกมาได้ 

ซึ่งหมายความว่าถึงแม้ว่าเราได้รับรู้การทำงานของหลุดดำแต่เราก็ยังไม่เคยได้เห็นแบบของจริงเลยแม้แต่ครั้งเดียว กล้องโทรทรรศน์ก็ไม่สามารถรับรังสีแม่เหล็กไฟฟ้า แสงหรือรังสีเอกซ์ ทำให้เราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่อยู่ในหลุมดำได้ 


2. The Giant Void 

ซึ่งแตกต่างจากหลุมดำ โดย Giant Voidไม่ได้เป็นหลุมในจักรวาล แต่พื้นที่ว่างในจักรวาลถูกแทนที่ด้วยสสารและสสารมืด (matter and dark matter) ซึ่งแตกต่างจากหลุมดำ ตรงที่แสงสามารถผ่านพื้นที่ส่วนนี้ได้ และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันมีพลังงานมืด (dark energy) 
Giant Void ที่ใหญ่ที่สุด มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.3 พันล้านปีแสง 


3. สสารมืด (Dark Matter) 

สสารมืดยังคงเป็นปริศนา แต่เรากำลังศึกษาสสารมืด 
เพื่อช่วยอธิบายบางส่วนของจักรวาลของเรา นักจักรวาลวิทยาเชื่อว่า 27% ของจักรวาลเป็นสสารมืด 

สสารมืดไม่ได้เกิดมาจากหลุมดำที่อยู่ทั่วไปในจักรวาลในขณะนี้แต่ ทฤษฎีหนึ่งคือสสารมืดของจักรวาลถูกสร้างขึ้นจากหลุมดำดั่งเดิมในครั้งแรกที่มีกำเนิดจักรวาล 


4. พลังงานมืด (Dark Energy) 

เชื่อกันว่าในเอกภพมีสสารมืดอยู่ประมาณ 27% และเต็มไปด้วยพลังงานมืด ซึ่งพลังงานมืดนั้นก็ไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันการมีอยู่จริงได้เช่นเดียวกับสสารมืด แต่ที่เข้าใจกันมากที่สุดคือพลังงานมืด และพลังงานมืด มาจากรังสีอุณหภูมิพื้นหลัง (Cosmic Microwave Background) หลังจากที่เกิด Big Bang เมื่ออะตอมไฮโดรเจนรวมตัวกันครั้งแรก 


5. The Great Attractor 

มีบางอย่างที่น่าสนใจคือ 220 ล้านปีแสงออกไปมีบางอย่างลากแกเลคซี่เราไปหามัน 

นับตั้งแต่เกิดบิ๊กแบง จักรวาลทั้งหมดเกิดการขยาย ดงนั้นทำให้เรารู้สึกว่าดาราจักรของเรากำลังเคลื่อนที่ และมีการเคลื่อนที่ไปในทิศทางหนึ่ง 

กลุ่มที่ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติของแรงโน้มถ่วง เรียกว่า Great Attractor และความสว่างของ Great Attractor มีผลกระทบจากแรงดึงดูดด้วย นักอวกาศวิทยาบางคนให้ประเด็นว่าปรากฏการณ์นี้เกิดจากสสารมืดเป็น และคนอื่น ๆ ก็อ้างว่ากาแล็กซีทางช้างเผือกของเราเองก็ถูกดึงไปหาบางอย่างด้วยความเร็ว 1.4 ล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง 


6. ดวงจันทร์ลึกลับของดาวเสาร์ ที่ชื่อว่า เพ็กกี้ 

ย้อนกลับไปในปี 2013 ยานแคสสินีของนาซาเอาภาพรวมของวงแหวนของดาวเสาร์นี้ และพบสิ่งผิดปกติซึ่งที่นักดาราศาสตร์เชื่อว่าเป็นดวงจันทร์ดวงใหม่ที่กำลังก่อตัว 

แต่น่าเสียดายคือ Jet Propulsion Lab ของนาซ่า ออกมาแถลงว่า " วัตถุไม่ได้มีขนาดเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด และเป็นเพียงเศษวงแหวนที่ซ้อนทับกัน " ทำให้ปัจจุบัน เพ็กกี้ ยังคงเป็นปริศนาอยู่ 


7. " Tabby's Star " KIC 8462852 

ดาว KIC 8462852 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 1,500 ปีแสง 

มีบางอย่างที่มีขนาดใหญ่ในกระจุกดาว KIC 8462852 สิ่งนั้นซึ่งถูกเรียกว่า Tabby's Star โดยประมาณ 20% ของแสงปล่อยออกมาจากดวงดาวจะบดบังโดยวัตถุที่มีขนาดใหญ่นั้นและอาจจะไม่ได้เป็นดาวเคราะห์ที่บดบังแสงนั้น เมื่อเทียบกับดาวพฤหัสแล้วมีขนาดใหญ่กว่ามาก (ดาวพฤหัสมีขนาดแค่ 1% ของวัตถุที่อยู่ใน KIC 8462852

มีบางคนบอกว่ามันเป็น Dyson Swarm ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่เพื่อดูดกลืนแหล่งพลังงานที่ปล่อยออกมาจากดาวฤกษ์ ที่เรียกว่า Dyson Sphere แต่ในปี 2018 เราอาจจะมีความรู้มากขึ้นนาซ่าเปิดตัวกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb และอาจจะสามารถอธิบาย 


Credit: insider
Editor: Mr.Sci'nTech
Share on Google Plus

About Unknown

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น